ตลาดรถกระบะยังคงเป็นเซ็กเมนต์สำคัญ ส่งผลให้ค่ายผู้ผลิตพาเหรดเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง หวังกระตุ้นตลาดในช่วงปลายปี เพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค ตอบสนองการใช้งานภายใต้ความโดดเด่นที่แตกต่างกันไป เติมความคึกคักในช่วงเวลาที่ยากลำบากของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

ภาพรวมของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ต้องใช้เวลาถึง 11 เดือน กว่าจะมีตัวเลขยอดขายสะสมทะลุ 500,000 คัน ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ในปีนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยจะปิดตลาดด้วยยอดขายไม่เกิน 600,000 คัน เป็นไปตามทิศทางของเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว

ส่งผลให้ตลาดในทุกเซ็กเมนต์มียอดขายหดตัวลงจากปีก่อนหน้า เนื่องด้วยกำลังซื้อของผู้บริโภคที่หดหายไป รวมถึงมาตรการอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่เป็นตัวแปรสำคัญ  โดยเฉพาะในเซ็กเมนต์หลักอย่างรถกระบะ ที่ครองสัดส่วนในตลาดประเทศไทยกว่าครึ่ง

อย่างไรก็ดี รถกระบะยังคงเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าในประเทศไทย ด้วยความอเนกประสงค์สามารถตอบสนองทั้งในบทบาทของพาหนะ รวมถึงเป็นเครื่องมือทำมาหากิน และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

จากทิศทางดังกล่าว ส่งผลให้บรรดาค่ายผู้ผลิตเดินหน้าเสริมทัพเพิ่มความสดใหม่ให้กับตลาดในช่วงโค้งสุดท้ายของปี สร้างโอกาสเก็บเกี่ยวยอดขายภายใต้บรรยากาศของงานมอเตอร์  เอ็กซ์โป ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอีเวนต์สำคัญสำหรับตลาดรถยนต์ ซ้ำยังเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญสำหรับทิศทางของตลาดในปีนี้

ไล่เรียงจากเจ้าตลาดอย่าง โตโยต้า ที่ยังคงเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ของผู้บริโภค และมาพร้อมการตอบรับที่ยอดเยี่ยม หลังปูพรมด้วยทางเลือกที่หลากหลายของรถกระบะไฮลักซ์ แม้จะไม่มีการขยับตัวในช่วงปลายปี ทว่ายังคงไว้ซึ่งบทบาทผู้เล่นหลัก และยังคงเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนตลาด

โดยในปีหน้าค่ายโตโยต้าพร้อมเดินเครื่องผลิตรถกระบะพลังงานไฟฟ้าและทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี นับเป็นการขยับตัวที่น่าสนใจ หลังใช้เวลาในช่วงที่ผ่านมาเก็บข้อมูล โตโยต้า ไฮลักซ์ บีอีวี ภายใต้บทบาทของขนส่งมวลชนที่ให้บริการฟรีกับประชาชนในหัวเมืองท่องเที่ยว

ด้านอีซูซุ สร้างแรงกระเพื่อมให้กับตลาดด้วย อีซูซุ ดีแมคซ์ ภายใต้ขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ในพิกัด 2.2 ลิตร ที่จะเข้ามาแทนบล็อกเดิมอย่าง 1.9 ลิตร ขณะที่พิกัดใหญ่สุดอย่าง 3.0 ลิตร ยังคงพร้อมเสิร์ฟลูกค้าในตลาดประเทศไทย หลังจากที่เปิดตัวรถกระบะพลังงานไฮบริดเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค

ด้วยทางเลือกที่หลากหลาย ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครบครัน ส่งผลให้ อีซูซุ ดีแมคซ์ รุ่นใหม่ มาพร้อมการตอบรับที่ยอดเยี่ยม เพิ่มความคึกคักและสร้างสีสันให้กับตลาดรถกระบะในช่วงโค้งสุดท้ายของปี

ขยับมาดูที่ค่ายฟอร์ด ยังคงไว้ซึ่งทิศทางการทำตลาดโดยการโฟกัสลูกค้าเฉพาะกลุ่ม พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถกระบะอย่างต่อเนื่อง และยังคงไว้ซึ่งผู้นำตลาดรถกระบะไฮเอนด์  โดยล่าสุดเป็นคิวของกระบะเรซซิ่งพรีเมียม ที่เข้ามาสานต่อภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของ เรนเจอร์ แร็พเตอร์

ส่วน มาสด้า บีที-50 ใหม่ ซึ่งเป็นการขยับตัวครั้งสำคัญของมาสด้า สอดคล้องไปกับการเปิดตัวเครื่องยนต์ใหม่ของพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ ทว่ามาพร้อมรูปโฉมใหม่ที่ยังคงไว้ซึ่งความโดดเด่นในเรื่องดีไซน์ ทั้งยังยกระดับด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันทันสมัยยิ่งขึ้น

ฟาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ เพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคด้วย โพเออร์ ซาฮาร์ รถกระบะขุมพลังไฮบริด ถึงแม้จะมีกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่กว้างสักเท่าไหร่ ทว่านับเป็นทิศทางที่ดีสำหรับลูกค้า  เนื่องจากมีตัวเลือกที่หลากหลายยิ่งขึ้น อยู่ที่ว่าจะโดนใจหรือตอบโจทย์ได้มากน้อยเพียงใด

อีกหนึ่งทางเลือกใหม่อย่าง ริดดารา อาร์ดี6 ที่เข้ามาเพิ่มสีสันให้กับตลาดรถกระบะ ซึ่งเป็นอีกแรงกระตุ้นสำคัญ สร้างการรับรู้ให้กับลูกค้า รวมถึงกระตุ้นให้ผู้ผลิตค่ายอื่นๆ ต้องขยับตัว เพื่อสร้างพื้นที่สื่อ รวมถึงสร้างโอกาสชิงยอดขาย ที่คาดว่าสัดส่วนจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต

ด้านรถกระบะนิสสันและมิตซูบิชิ ยังคงอยู่ในความนิยมของผู้บริโภค และมีส่วนในการขับเคลื่อนตลาด ถึงแม้ว่าในปีนี้การขยับตัวอาจจะไม่มากสักเท่าไหร่ ทว่ายังคงเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญในการสร้างความเติบโตให้กับตลาดรถกระบะ ซึ่งเป็นผู้เล่นหลักในตลาดรถยนต์