‘เอ็มจี’ ปรับฟังก์ชันตู้ชาร์จ เติมความสะดวกให้ลูกค้า
เอ็มจี ปรับเสริมฟังก์ชันใหม่ ให้สถานีชาร์จพลังงงานด้วยรูปแบบ “PLUG AND CHARGE” เพิ่มความสะดวกเจ้าของรถเอ็มจี ประเดิม 35 แห่ง พร้อมตั้งเป้าเดินหน้าเพิ่มเติมสถานีชาร์จ MG SUPERCHARGE ทุกๆ ระยะทาง 150 กิโลเมตร หรืออีกกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ เพื่อร่วมขับเคลื่อนและผลักดันให้ประเทศไทยไปสู่การเป็นสังคม EV ในอนาคต
สถานีชาร์จไฟสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า บีอีวี ถือเป็นหัวใจสำคัญในการใช้รถยนต์ในรูปแบบพลังงานไฟฟ้า ล่าสุด บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจี เพิ่มฟังก์ชันใหม่ให้กับสถานี MG SUPER CHARGE เพื่อช่วยให้การชาร์จไฟทำได้ง่ายขึ้น คือ “PLUG AND CHARGE”
โดยขณะนี้ฟังก์ชันใหม่ “PLUG AND CHARGE” ได้เริ่มเปิดนำร่องให้บริการฟังก์ชันใหม่ไปแล้วกว่า 35 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ และเตรียมอัปเกรดให้ครอบคลุมครบทุกสถานีชาร์จ โดย “PLUG AND CHARGE ถือเป็นฟังก์ชันที่เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าเอ็มจี เพื่อลดขั้นตอนการใช้บริการ โดยมีขั้นตอนการใช้งาน 3 ขั้นตอนคือ ปลดหัวชาร์จออกจากตู้ MG SUPER CHARGE, เสียบหัวชาร์จเข้ากับตัวรถ ตู้ชาร์จจะตรวจสอบข้อมูลและเริ่มการชาร์จอัตโนมัติเมื่อชาร์จเสร็จ หรือต้องการหยุดการทำงาน กดปุ่ม Stop บนหน้าจอ MG SUPER CHARGE และใส่ Password
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เจ้าของรถ MG ZS EV และ MG EP สามารถใช้งาน PLUG AND CHARGE โดยนำรถเข้าไปที่ศูนย์บริการเอ็มจี ทั่วประเทศ เพื่ออัปเดตฟังก์ชัน และเติมเงินใน MG WALLET ให้เพียงพอสำหรับการชาร์จ
“ฟังก์ชัน PLUG AND CHARGE เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันความสะดวกสบายที่เราเพิ่มให้กับลูกค้าเอ็มจี เพราะเป้าหมายของเอ็มจีไม่ใช่เพียงแค่การขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเท่านั้น สิ่งที่เราทำมาโดยตลอดคือ การสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าให้มีความแข็งแกร่ง ซึ่งสถานีชาร์จเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญ”
ปัจจุบัน เอ็มจี มีเครือข่ายสถานีชาร์จ 153 แห่ง ทั่วประเทศ โดยเป็นการร่วมมือกับศูนย์บริการเอ็มจีทั่วประเทศ และสถานีบริการน้ำมันบางจาก โดยเอ็มจี ได้วางแผนกำหนดเป้าหมายหลักคือ การมีสถานีชาร์จ MG SUPERCHARGE ทุกๆ ระยะทาง 150 กิโลเมตร เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานของลูกค้าที่ใช้รถพลังงานไฟฟ้าเอ็มจี