“เซเลริโอ” ขยับชั้น “ซูซูกิ” ปรับทัพปีเสือ ชูความคุ้มค่าคู่ “สวิฟท์” ล็อกเป้า 30,000 คัน
![](http://www.ramindhra-uhu.com/wp-content/uploads/2022/01/Suzuki-Celerio-2.jpg)
ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ปรับทัพสู้ปีเสือด้วย ซูซูกิ สวิฟท์ เวอร์ชันพิเศษ พร้อมยก ซูซูกิ เซเลริโอ เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในการไล่ล่ายอดขายในปีนี้ รวมถึงเตรียมส่งรถรุ่นใหม่ลงสู่ตลาด ชูความโดดเด่นของสมรรถนะการใช้งานที่หลากหลาย ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ภายใต้ราคาที่จับต้องได้ เชื่อรถยนต์เครื่องสันดาปภายในยังเป็นตัวเลือกหลัก ตั้งเป้าเก็บเกี่ยวยอดขาย 30,000 คัน
เป็นที่ทราบกันดีว่า การแพร่ระบาดของโคโรนา ไวรัส 2019 สร้างผลกระทบและเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อการใช้ชีวิต รวมถึงภาพรวมทางเศรษฐกิจที่โดนเล่นงานอย่างหนักในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลพวงมาจากผู้บริโภคที่ชะลอการจับจ่ายใช้สอย ทั้งยังไม่มีความชัดเจนว่าวิกฤติในครั้งนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อใด
อย่างไรก็ดี จากวิกฤติดังกล่าว ก็ได้สร้างโอกาสให้กับภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ เนื่องด้วยผู้บริโภคมองถึงความปลอดภัยในการเดินทาง และมองหารถไว้ใช้งานภายใต้ราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้บรรดาอีโคคาร์ยังคงได้รับความนิยม และสร้างยอดขายให้กับหลายค่ายสวนทางภาพรวมตลาดในช่วงที่ผ่านมา
ซูซูกิ เซเลริโอ เป็นหนึ่งในคอมแพ็คคาร์ที่สามารถสร้างอัตราเติบโตได้ในปีที่ผ่านมา และก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในกำลังหลักของค่ายซูซูกิที่โดนวิกฤติโควิด-19 เล่นงานอย่างเลี่ยงไม่ได้ เช่น ส่งผลให้ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรับผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งในเรื่องของตัวผลิตภัณฑ์ รวมถึงโปรโมชัน และงานบริการหลังการขาย
ในปีที่ผ่านมา ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เก็บเกี่ยวยอดขายไปได้ทั้งสิ้น 22,378 คัน แม้จะไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ทว่า ยังมีสัญญาณบวกจากยอดขาย ซูซูกิ เซเลริโอ ที่เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ด้วยยอดขาย 4,652 คัน รวมถึง ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7 ที่โดดเด่นในตลาดครอสโอเวอร์ 7 ที่นั่ง และเดินไปในทิศทางบวกด้วยยอดขาย 3,399 คัน และ ซูซูกิ แครี่ รถที่เติบโตขึ้นด้วยยอดขาย 2,886 คัน ส่วน ซูซกิ สวิฟท์ ยังคงเป็นกำลังหลักและเดินหน้าเก็บเกี่ยวยอดขายในปีที่ผ่านมา ไปได้ทั้งสิ้น 8,413 คัน ขณะที่ ซูซูกิ เซียส ขายได้ 2,264 คัน และ ซูซูกิ เออร์ติก้า มียอดขาย 759 คัน
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “จากผลกระทบต่อตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจไปจนถึงผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตในช่วงที่ผ่านมาของคนไทย ส่งผลต่อการการปรับตัวของผู้บริโภคไปสู่วิถีในรูปแบบใหม่แล้วนั้น การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้า การเดินทางในชีวิตประจำวันที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและรักษาระยะห่างจากผู้อื่นมากยิ่งขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งที่มีส่วนในการตัดสินใจซื้อรถยนต์สักคันของผู้บริโภค”
“นอกจากความสะดวกสบายในการเดินทาง การตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของชีวิต ยังมุ่งหวังในด้านของการลดสภาวะการเผชิญการเดินทางที่มีผู้คนแออัดเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจ การคำนึงถึงความคุ้มค่า คุ้มราคา มาพร้อมกับความต้องการรถยนต์คุณภาพดี จึงเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นยอดขายรถยนต์หลายรุ่นของซูซูกิให้มีตัวเลขที่ดีเกินคาด”
โดยในปีนี้ ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เชื่อว่ารถยนต์เครื่องสันดาปภายในยังคงมีความสำคัญและเป็นตัวเลือกหลักในตลาดรถยนต์ อย่างไรก็ดี ด้วยทิศทางของยานยนต์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (EV) เริ่มเป็นที่ยอมรับและเติบโตขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลให้ภาครัฐบาลจะหันไปโฟกัสและให้การสนับสนุนรถอีวีมากยิ่งขึ้น ทั้งยังมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ค่ายผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่น จะไม่ขยับตัวด้วยรถรุ่นใหม่หมด หรือออลนิว ในช่วง 1-2 ปีนี้
สำหรับค่ายซูซูกิเตรียมสู้ศึกในปีนี้ ด้วยการเติมความสดใหม่ให้กับ ซูซูกิ สวิฟท์ ซึ่งจะเป็นรถเวอร์ชันพิเศษ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและสร้างโอกาสเก็บเกี่ยวยอดขาย เป็นหนึ่งในทิศทางการทำตลาดของซูซูกิในช่วงที่ผ่านมา ทั้งยังได้รับการตอบรับที่ดี อย่างเช่น ซูซูกิ สวิฟท์ จีแอล พลัส ที่เติมความสปอร์ตด้วยชุดแต่งพิเศษรอบคัน ก็สามารถเรียกยอดขายได้จำนวนไม่น้อย
ขณะที่ทิศทางการสื่อสารและทำตลาดยังคงไว้ซึ่งความโดดเด่นในเรื่องความคุ้มค่าคุ้มราคา โดยเฉพาะรถในกลุ่มอีโคคาร์ ด้วยสมรรถนะที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ทั้งยังมองว่าการคลายล็อกของรัฐบาลจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสร้างการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องด้วยธุรกิจท่องเที่ยวที่สามารถทำได้ดีกว่าที่ผ่านมา จะเป็นกลไกสำคัญและขับเคลื่อนเศรษฐกิจในบ้านเรา
ทั้งยังยก ซูซูกิ เซเลริโอ ขึ้นเป็นกำลังสำคัญในการสร้างอัตราเติบโต มร.มิโนรุ อามาโนะกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ซูซูกิ เซเลริโอ กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง จึงเป็นส่วนสำคัญในการช่วยดันยอดขายรวมของซูซูกิให้ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี นอกจากด้านสมรรถนะที่ดีเยี่ยม มอบความประหยัด ทั้งยังตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการเดินทาง และมีราคาจำหน่ายที่สามารถตัดสินใจครอบครองเป็นเจ้าของได้ง่ายอีกด้วย”
ส่วนในเรื่องของรถใหม่ ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) มีแผนที่จะเปิดตัวรถใหม่ 1 รุ่น ทว่า เป็นเพียงการปรับโฉม ไม่ใช่เป็นรุ่นใหม่หมด เนื่องด้วยเหตุผลที่ได้กล่าวไปในข้างต้น อย่างไรก็ดี ยังไม่ได้มีการยืนยันว่าจะเป็นรุ่นใด และในช่วงเวลาไหน โดยให้รายละเอียดในเบื้องต้นว่าไม่ใช่ในช่วงบรรยากาศของงานบางกอก มอเตอร์โชว์ เพียงเท่านั้น
เป้าหมายของค่ายซูซูกิ ในปีนี้ยังคงวางไว้ที่ 30,000 คัน เช่นเดียวกับปีก่อนหน้านี้ แต่ด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ไม่สามารถบรรลุเป้าที่วางไว้เหมือนกับหลายๆ ค่าย โดยคาดว่าภาพรวมทางเศรษฐกิจจะเดินไปในทิศทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ จากมาตรการภาครัฐ ทั้งในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ด้วยจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้ภาคธุรกิจต่างๆ สามารถก้าวเดินไปได้อีกครั้ง
“สำหรับ ซูซูกิ เซเลริโอ ครบครันด้วยคุณภาพ ให้ประโยชน์ใช้สอยสูงสุด มีสมรรถนะที่ดี มีความคุ้มค่า ทั้งในเรื่องราคาและคุณภาพ รวมถึงความคุ้มค่าในเรื่องของการดูแลรักษารถยนต์ที่ดูแลได้ง่ายและค่าใช้จ่ายไม่สูง ตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้อีโคคาร์รุ่นนี้ยังคงได้รับความสนใจจากลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปีนี้ เซเลริโอ จะเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีส่วนช่วยในการผลักดันยอดขายรถยนต์ซูซูกิให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้” นายวัลลถ กล่าวย้ำความสำคัญของอีกหนึ่งกำลังหลักของซูซูกิในปีนี้