“อีโวลท์” แท็กทีม “เจนตารี” ขยายเครือข่ายสถานีชาร์จไฟ

อีโวลท์ ผู้นำด้านการให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ผสานความร่วมมือกับเจนตารี ผู้ให้บริการด้านพลังงานสะอาดในมาเลเซีย เดินหน้าขยายสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ รองรับการขยายตัวของตลาดในไทย พร้อมขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้านนวัตกรรมสีเขียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
บริษัท อีโวลท์ เทคโนโลยี จำกัด (Evolt) นำโดย นายพูนพัฒน์ โลหารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเเละผู้ก่อตั้ง พร้อมด้วย นายวิศรุต อมรชัยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับบริษัทเจนตารี ในเครือ Gentari Green Mobility มุ่งเป้าขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเเละมุ่งพัฒนาโซลูชันอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายพูนพัฒน์ โลหารชุน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีโวลท์ เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า “การเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์กับเจนตารีนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ อีโวลท์ ในการเร่งขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพราะเจนตารีนั้น เป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามาเเล้วกว่า 250 เเห่ง ทั้งในประเทศอินเดีย เเละมาเลเซีย เเละเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในหมู่ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า เรามีความเชี่ยวชาญในการจัดหาทำเลที่ตั้งสถานีชาร์จที่มีศักยภาพ เพื่อเข้าถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นในที่ทำงาน ห้างสรรพสินค้าเเหล่งช็อปปิ้ง เเละสถานที่พักผ่อนต่างๆ”
“ซึ่งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของเรา ล้วนอำนวยความสะดวกให้ทุกๆ การเดินทางของผู้ขับขี่ยานยนต์ไฟฟ้าราบรื่นมากขึ้น สำหรับบันทึกข้อตกลงกับบริษัทเจนตารีในครั้งนี้ จะทำให้เกิดความร่วมมือด้านการลงทุนขยายสถานีชาร์จในประเทศไทย เเละเป็นการเพิ่มขีดความสามารถสำหรับโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย ที่เกี่ยวข้องกับสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั้งในไทยเเละในเอเชียเเปซิฟิก”
ด้าน มร.ชาฮ์ ยัง ราซาลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Green Mobility กล่าวว่า “บันทึกข้อตกลงฉบับนี้ นับเป็นการเคลื่อนตัวครั้งสำคัญของเราในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระดับภูมิภาคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย เราตั้งเป้าขยายการลงทุนผ่านการร่วมมือกับอีโวลท์ ที่จะช่วยทำให้เราขยายเครือข่ายการเดินทางสีเขียวให้กว้างขวางมากขึ้น”
“โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งในประเทศไทย เราจะเน้นรุกตลาดเชิงพาณิชย์ ทั้งในห้างสรรพสินค้า โรงเเรม เเละสำนักงานอาคารต่างๆ รวมไปถึงเเหล่งสัญจร ศูนย์กลางการเดินทางอื่นๆ อีกทั้งในปัจจุบันเส้นทางข้ามพรมเเดนในภูมิภาคนี้ล้วนได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราได้เห็นศักยภาพในจุดนี้ เเละในอนาคตเราก็อาจได้เห็นการพัฒนาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าผ่านบริการโรมมิ่ง ที่จะมอบประสบการณ์การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ราบรื่นให้กับผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า ”