รถซีดานรุ่นเริ่มต้น ค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ภายใต้รหัส A-Class ตอบโจทย์ความต้องการของแฟนตราดวงดาวด้วย 2 รุ่นทางเลือกในบ้านเรา ได้แก่ Mercedes-Benz A200 Progressive และ Mercedes-Benz A200 AMG Dynamic ที่ขยับความสปอร์ตขึ้นไปอีกขั้นด้วยชุดแต่งประจำค่ายอย่าง AMG ซึ่ง “ทีมงานยวดยาน” หยิบยกรุ่นเริ่มต้นที่มีความน่าสนใจไม่น้อยมาไล่เลียงกันในฉบับนี้

สำหรับรูปโฉมภายนอกโดดเด่นเตะตาด้วยโลโกดวงดาวขนาดใหญ่ วางอยู่กลางกระจังหน้าแบบ Diamond Grille สอดรับกับกันชนหน้า Progressive Bodystyling เติมความโฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้า LED High Performance พร้อม Daytime Running Light แบบ LED ด้านท้ายรถมาพร้อมกันชนหลัง Progressive Bodystyling ไฟท้าย LED เพิ่มความสปอร์ตด้วยปลายท่อไอเสียคู่แบบโครเมียม และล้ออัลลอยแบบ 10 ก้าน ขนาด 17 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารผสานความสปอร์ตพรีเมียม ด้วยเบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง ARTICO ฝั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง Memory Seat  มาพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงสปอร์ต 3 ก้าน รวมถึงมาตรวัดแบบ Full Digital ขนาด 7 นิ้ว คอนโซลหน้าโดดเด่นด้วยช่องแอร์แบบ Turbine Airvents พร้อมไฟเรืองแสง ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ส่วนเบาะนั่งด้านหลัง แยกพับอิสระ 40:20:40 พร้อมที่วางแขน

ทันสมัยใช้งานสะดวกด้วยจอกลางระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว รวมถึงปุ่มควบคุมหน้าจอกลาง Touchpad มาพร้อมระบบปฏิบัติการ MBUX และระบบสั่งงานด้วยเสียง รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ยกระดับการใช้งานด้วยระบบเชื่อมต่อรถยนต์ Mercedes me connect ที่มาพร้อมระบบโทรช่วยเหลือฉุกเฉิน และระบบวิเคราะห์สภาพรถยนต์ทั้งยังสามารถสตาร์ตเครื่องยนต์เพื่อเปิดระบบปรับอากาศด้วยมือถือ

ด้านขุมพลังขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 1.3 ลิตร ความจุ 1,332 ซี.ซี. สร้างพละกำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที รีดแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,620-4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ 7G-DCT 7 สามารถเปลี่ยนเกียร์ด้วยแพดเดิ้ลชิฟท์หลังพวงมาลัย เติมฟีลลิ่งด้วยเสียงเครื่องยนต์แบบสปอร์ต มาพร้อมระบบโหมดการขับขี่ DYNAMIC SELECT รองรับการใช้งานในรูปแบบที่แตกต่างกันไป

ครบครันด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยตามยุคสมัย อาทิ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก, ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติแบบแอคทีฟ, ระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อม AUTO BRAKE HOLD, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ เติมเต็มด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง, ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง, ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้างป้องกันศีรษะ 4 ตำแหน่ง และถุงลมนิรภัยหัวเข่า 1 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่

เพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้งาน ด้วยระบบรักษาความเร็วอัตโนมัติ, ระบบจำกัดความเร็ว, ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ, ระบบเตือนแรงดันลมยาง, ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ และเซ็นเซอร์กะระยะช่วยจอด รวมถึงระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ, กล้องมองภาพขณะถอยจอด, กุญแจรีโมตคอนโทรล ระบบกุญแจ KEYLESS-GO พร้อมด้วยชุดปะยางฉุกเฉิน TIREFIT

ไล่เลียงในเรื่องของรูปโฉมที่ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ทว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสร้างความน่าสนใจให้กับรถแต่ละรุ่น ซึ่งภาพรวมก็อยู่ที่มาตรฐานของค่ายดวงดาว ตอบโจทย์ของลูกค้าที่ต้องการในเรื่องของความพรีเมียมทันสมัย หรือถ้าหากอยากได้กลิ่นอายความสปอร์ต แนะนำให้จ่ายเพิ่มเพื่อขยับไปรุ่น AMG Dynamic รวมถึงออปชันต่างๆ ที่ก็ใส่มาให้ครบครันตามยุคสมัย

Mercedes-Benz A200 Progressive เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคที่อยากจับจองเป็นเจ้าของแบรนด์หรูจากเมืองเบียร์ ในราคาต่ำกว่า 2 ล้าน สามารถรองรับการใช้งานได้ในระดับที่ยอดเยี่ยมในแบบฉบับของรถซีดาน ทั้งยังให้ฟีลลิ่งการขับขี่ดี รวมถึงเทคโนโลยีเสริมการใช้งานต่างๆ ก็ให้มาแบบครบๆ ในแบบฉบับที่รถในพ.ศ. นี้พึงมี

รายละเอียดทางเทคนิค

ชื่อรุ่น                                                                               Mercedes-Benz A200 Progressive

มิติตัวรถ ยาว x กว้าง x สูง (มิลลิเมตร)                    4,549 x 1,796x 1,425

ระยะฐานล้อ (มิลลิเมตร)                                             2,729

พื้นที่บรรทุกสัมภาระ (ลิตร)                                       420

เครื่องยนต์                                                                       เบนซิน 4 สูบแถวเรียง 1.3 ลิตร เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์

ปริมาตรกระบอกสูบ (ซี.ซี.)                                       1,332

แรงม้าสูงสุด (รอบ/นาที)                                             163/5,500

แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร)                                         250/1,620-4,000

ระบบส่งกำลัง                                                                เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ พร้อมแพดเดิ้ลชิฟท์

ความจุเชื้อเพลิง (ลิตร)                                                 43

ระบบขับเคลื่อน                                                            ล้อหน้า

ความเร็วสูงสุด (กิโลเมตร/ชั่วโมง)                           230

ล้อ                               หน้า/หลัง                                    ล้ออัลลอยแบบ 10 ก้าน ขนาด 17 นิ้ว

ยาง                              หน้า/หลัง                                    CONTINENTAL EcoContact 6 ขนาด 205/55 R17

ราคาจำหน่าย                                                                  1,990,000 บาท