ส่องกล้อง By The Great MAZDA CX-8 2.5 SP EXCLUSIVE เติมเต็มความอเนกประสงค์

2.5 SP EXCLUSIVE คือตัวเลือกล่าสุดจากค่ายมาสด้า ที่เพิ่มเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งและเติมเต็มความอเนกประสงค์ให้กับ MAZDA CX-8 พี่ใหญ่ของตระกูล CX-Series ในประเทศไทย มาพร้อมที่นั่งแบบ Caption Seat เป็นเบาะแถว 2 แบบวอล์ก-ทรู สามารถเดินผ่านกลางไปยังที่นั่งแถวที่ 3 ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีให้เฉพาะภายใต้ขุมพลังดีเซลเพียงเท่านั้น

สำหรับรูปโฉมไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยังคงไว้ซึ่งความโดดเด่นและเป็นตัวตนของยานยนต์ค่ายมาสด้า ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ภายใต้กลิ่นอายของโคโดะ ดีไซน์ อันเป็นเอกลักษณ์ สร้างความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าด้วยกระจังหน้าวัสดุเปียโนแบล็ก ต่างจากรุ่นดีเซลที่เป็นสีกันเมทัลลิค มาพร้อมสีใหม่ อย่าง แพลทตินั่ม ควอทซ์ และโพลีเมทัล เกรย์ เติมเต็มด้วยล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ ที่ดูลงตัวและพรีเมียมยิ่งขึ้น

ขณะที่ภายในห้องโดยสารเพิ่มความพรีเมียมและสปอร์ต ด้วยการใช้วัสดุ วอร์ม ซิลเวอร์ และสีเงินซาตินโครม รวมถึงหลังคาซันรูฟ เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้งานด้วยฝาท้ายที่เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า มาพร้อมระบบแฮนด์-ฟรี เทลเกต หรือระบบเตะเปิด-ปิด ตามยุคสมัยที่ควรจะเป็น

ยกระดับการใช้งานด้วย ไวร์เลส ชาร์จเจอร์ สามารถเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายด้วยเช่นกัน เบาะแถวที่ 2 ซึ่งเป็น Caption Seat ทว่า มีระบบระบายอากาศเฉพาะเบาะโดยสารคู่หน้าเท่านั้น ด้อยกว่ารุ่นดีเซล ที่มีให้ครบครัน รวมถึงคอนโซลกลางที่มาพร้อมช่องวางแก้วน้ำ และช่องชาร์จไฟ USB ซึ่งช่องชาร์จไฟยังได้ถูกเพิ่มมาในที่นั่งแถว 3 ด้วยเช่นกัน ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานได้ครบครันยิ่งกว่า

ด้านสมรรถนะการขับขี่ มาสด้าได้เติมเต็มด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Mazda Radar Cruise Control ที่ยกระดับเป็นแบบ Stop & Go ซึ่งใช้งานได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง ที่ขยับขึ้นเป็น G-Vectoring Control Plus เหมือนกับรุ่นอื่นๆ ที่ได้รับการยกระดับขึ้นไปอีกขั้น และเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ช่วยในเรื่องการขับขี่ได้เป็นอย่างดี

ทว่า มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.5 ลิตร รีดกำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 258 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ได้แรงม้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเครื่องยนต์ดีเซล แต่ก็แลกมาด้วยแรงบิดที่ลดลงด้วยเช่นกัน ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องอัตราเร่ง รวมถึงช่วงรอยต่อของเกียร์ที่ทำได้อย่างน่าพอใจ

โดยภาพรวมหลังการทดสอบ MAZDA CX-8 ยังคงไว้ซึ่งความโดดเด่นในเรื่องของความอเนกประสงค์ ที่ตอบโจทย์การเดินทางทั้งในเรื่องการโดยสาร หรือจะใช้ขนของหรือสัมภาระก็สามารถทำได้ในระดับที่น่าพอใจ ในแบบฉบับของรถอเนกประสงค์ในยุคปัจจุบัน รวมถึงเบาะแถว 2 ซึ่งเป็น Caption Seat เข้ามาเติมเต็มได้ในระดับหนึ่ง ทว่า ออปชันหลายๆ อย่างถูกตัดออกไปตามราคาที่ลดลงด้วยเช่นกัน

รวมถึงความสบายของเบาะนั่งที่ได้ฟีดแบ็กจากผู้โดยสารว่ายังนั่งไม่สบายสักเท่าไหร่ ใช้เดินทางไกลก็มีอาการเมื่อยไม่น้อย ทว่า ในมุมของผู้ขับขี่ มองว่าสิ่งที่สัมผัสและได้รับนั้นสมเหตุสมผล และเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ภายใต้ราคาที่ถูกกว่ารุ่นท็อปถึง 500,000 บาท โดยเฉพาะในเรื่องของความอเนกประสงค์ที่เป็นจุดเด่นและตัวชูโรงของรถรุ่นนี้