การเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าด้วยรถรุ่นพิเศษ ภายใต้รหัส GR Sport เป็นหนึ่งในแนวทางการทำตลาดค่ายโตโยต้า ที่ยกระดับความสปอร์ตและสมรรถนะการใช้งานภายใต้กลิ่นอายของ Toyota Gazoo Racing โดยพีพีวีประจำค่าย อย่าง โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เป็นรถรุ่นแรกๆ ที่ได้รับการอัปเกรดภายใต้รหัสดังกล่าว ในช่วงเวลาเดียวกันกับรถกระบะประจำค่าย อย่าง โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่

สำหรับรูปร่าหน้าตาของ ฟอร์จูนเนอร์ จีอาร์ สปอร์ต ยกระดับความสปอร์ตด้วยกระจังหน้าสีดำเงา ดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ GR รวมถึงกันชนหน้า พร้อมชุดตกแต่งสีดำเงา มาพร้อมมือจับประตูสีเดียวกับตัวรถ เติมเต็มด้วยสปอยเลอร์หลังดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ต และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว สีพิเศษเฉพาะรุ่น GR Sport

ขณะที่ดีไซน์ภายในห้องโดยสาร มาในโทนสีดำสลับแดง เบาะนั่ง Suede แบบเจาะรู และหนังสังเคราะห์เดินด้ายตกแต่งสีแดง พร้อมสัญลักษณ์ GR  แผงคอนโซลหน้าตกแต่งด้วยแถบสี Smoke silver พร้อมบุหนังสังเคราะห์สีดำเดินด้ายแดง ช่องปรับอากาศด้านหน้าตกแต่งด้วยแถบสี Smoke silver และโครเมียม แผงข้างประตู สีดำบุหนังสังเคราะห์ พร้อมตกแต่งด้วยแถบสี Smoke silver

รวมถึงพวงมาลัยหุ้มหนังแบบ Soft Touch แบบเจาะรู ตกแต่ง Center mark สีแดง และเดินด้ายสีแดง / สี Smoke silver และสัญลักษณ์ GR หัวเกียร์หุ้มหนัง ตกแต่งด้วยแถบสี Smoke  silver ฐานเกียร์ลาย CarbonFiber พร้อมด้วยแถบสี Smoke silver และกล่องเก็บของหุ้มหนังสังเคราะห์เดินด้ายตกแต่งสีแดง แป้นคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต พรมรองพื้นห้องโดยสารดีไซน์เฉพาะรุ่น และกุญแจรีโมต Smart key ดีไซน์พิเศษเฉพาะรุ่น และปุ่มสตาร์ตอัจฉริยะ พร้อมสัญลักษณ์ GR

ด้านสมรรถนะการขับขี่ มาพร้อมระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนกคู่ และระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบโฟร์ลิงก์ พร้อมคอยล์สปริง เหล็กกันโคลง พร้อมกับโช้คอัพแบบโมโนทูบ เฉพาะรุ่น GR Sport รวมถึงระบบเบรกหน้า-หลังแบบดิสก์เบรก มีครีบระบายความร้อน พร้อมคาลิเปอร์สีแดง และแสดงความเป็นตัวตนที่ชัดเจนด้วยสัญลักษณ์ GR

ทั้งยังครบครันด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense ประกอบด้วย ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-collision system), ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (Lane Departure Alert) และระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control), ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor) และระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล พิกัด 2.8 ลิตร ผสานการทำงานร่วมกับวีเอ็น เทอร์โบ รีดพละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที สร้างแรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift และ Paddle Shift สามารถตอบสนองการใช้งานทั้งบนเส้นทางออนโรดและออฟโรด ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

สำหรับ ฟอร์จูนเนอร์ จีอาร์ สปอร์ต โดดเด่นทั้งรูปลักษณ์ภายนอกที่ขยับขึ้นไปอีกขั้นและแสดงความเป็นตัวตนที่ชัดเจน รวมถึงสมรรถนะการใช้งานที่ตอบสนองได้ดีทั้งบนเส้นทางออนโรดที่ขับขี่ได้อย่างมั่นใจ และพร้อมลุยบนเส้นทางออฟโรด ภายใต้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ใช้งานได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยที่ใส่เข้ามาอย่างครบครันตามยุคสมัย

โดยภาพรวมนับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่มองหารถพีพีวีสักคันที่ตอบสนองการใช้งานได้ดี ทั้งยังยกระดับความสปอร์ตขึ้นไปอีกขั้น ด้วยออปชันเสริมการใช้งานที่ใส่เข้ามาเพิ่มเฉพาะรุ่น ก็สมเหตุสมผลที่จะควักเงินจ่ายกับค่าตัวที่ขยับขึ้นไปกว่า 1.9 ล้านบาท แต่ถ้ามองว่าแพงเกินไป ก็แสดงว่าคุณไม่ใช่ลูกค้าสำหรับรถรุ่นนี้ ก็แนะนำให้หาตัวเลือกอื่นๆ ที่อยู่ในระดับที่จ่ายไหว และมีความชื่นชอบทั้งในเรื่องรูปร่างหน้าตา รวมถึงสมรรถนะที่จะได้รับ

รายละเอียดทางเทคนิค

ชื่อรุ่น                                                  TOYOTA FORTUNER GR SPORT

มิติตัวรถ ยาว x กว้าง x สูง (มิลลิเมตร)                        4,795 x 1,855 x 1,835

ระยะฐานล้อ (มิลลิเมตร)                                 2,750

ระยะห่างล้อ    หน้า (มิลลิเมตร)                      1,540

หลัง                             1,555

ระยะต่ำสุดจากพื้น (มิลลิเมตร)                        193

เครื่องยนต์                                           ดีเซล 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ อินเตอร์คูลเลอร์

ความจุกระบอกสูบ (ซี.ซี.)                               2,755

แรงม้าสูงสุด (รอบ/นาที)                                 204/3,400

แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร)                              500/1,600-2,800

ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร)                                 80

ระบบส่งกำลัง                                      อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift และ Paddle Shift

ระบบขับเคลื่อน                                              4 ล้อ

ระบบควบคุมรถ                                              แร็คแอนด์พีเนียน พร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบ VFC

รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด (เมตร)                              5.8

ระบบช่วงล่าง หน้า                             อิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง เหล็กกันโคลง และ ช็อคแอบซอร์บเบอร์

หลัง                             โฟร์ลิงก์ พร้อมคอยล์สปริง เหล็กกันโคลง และ ช็อคแอบซอร์บเบอร์

ระบบเบรก      หน้า/หลัง                     ดิสก์เบรก แบบมีครีบระบายความร้อน พร้อมคาลิปเปอร์ GR

ล้อ                   หน้า/หลัง                     ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว

ยาง                  หน้า/หลัง                     DUNLOP GRANDTREK PT3A ขนาด 265/50R20

ราคาจำหน่าย                                       1,879,000 บาท