“มิว-เอ็กซ์” ร้อนแรง แชมป์ “พีพีวี” กระตุ้นตลาด ประเดิมครึ่งปีหลัง
อีซูซุ มิว–เอ็กซ์ ขยับยอดขายทะลุ 1,100 คัน ในเดือนกรกฎาคม หลังเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตอกย้ำความนิยมรถอเนกประสงค์พีพีวี เจเนอเรชันล่าสุด ที่ยกระดับทั้งในเรื่องรูปโฉมและสมรรถนะการใช้งาน สอดรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน เติมความคึกคักให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์
หลังจากที่ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ เติมความสดใหม่ให้กับไลน์อัปรถอเนกประสงค์พีพีวีในประเทศไทย ด้วย อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ เจเนอเรชันล่าสุด เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าในประเทศไทย ภายใต้รูปโฉมที่โฉบเฉี่ยวทันสมัยยิ่งขึ้น ยกระดับการใช้งานด้วยเทคโนโลยีและฟังก์ชันที่ครบครัน มาพร้อมทางเลือกใหม่อย่าง RS เอาใจแฟนสายพันธุ์สปอร์ต
ด้วยฐานแฟนที่แข็งแกร่ง บวกกับความโดดเด่นในเรื่องสมรรถนะที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ส่งผลให้อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ เดินหน้าเก็บเกี่ยวยอดขายได้เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ โดยล่าสุดในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายครองแชมป์ตลาดพีพีวีด้วยจำนวนทั้งสิ้น 1,160 คัน เหนือกว่าโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์
ส่งผลให้ยอดขายสะสมค่ายอีซูซุในตลาดพีพีวี หลังผ่าน 7 เดือน มีจำนวนทั้งสิ้น 7,089 คัน ลดช่องว่างระหว่างโตโยต้าที่ยังครองตลาดด้วยยอดขายสะสม 7,914 คัน รวมถึงฟอร์ด ที่ยังคงรั้งอันดับ 3 ขายไปได้ทังสิ้น 5,049 คัน รองลงมาได้แก่ มิตซูบิชิ, นิสสัน และ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตามลำดับ
สำหรับอีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ใหม่ ได้รับการปรับโฉมทั้งภายนอกและภายใน มาพร้อม 4 รุ่นทางเลือก ชูโรงด้วยรุ่น RS ที่ยกระดับความสปอร์ตขึ้นไปอีกขั้น โดดเด่นด้วยกระจังหน้า Black Diamond Grille พร้อมสัญลักษณ์ RS วัสดุ Black Chrome เสริมความดุดันด้วยชุดกันชนหน้า Fighter Jet พร้อม Air Curtain โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้าและไฟท้าย Dynamic Blade เติมความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอย RS Design ขนาด 20 นิ้ว รวมถึง Fender Garnish สีดำ และ Side Garnish สัญลักษณ์ RS
ภายในห้องโดยสารสปอร์ตพรีเมียม มาในโทนสีดำ ตกแต่งด้วยวัสดุ Matte Silver Garnish มาพร้อมคอนโซลสีดำ ดีไซน์ใหม่ ตกแต่งด้วย Matte Silver ย้ำความสปอร์ต เสริมการใช้งานด้วยเบาะนั่งดีไซน์สปอร์ต สร้างความโดดเด่นเป็นตัวตนด้วยการเดินด้ายสี Lime Green และสัญลักษณ์ RS บนหัวเบาะ ยกระดับความพรีเมียม เสริมบรรยากาศภายในรถด้วย Red Ambient Light
ตอบสนองการใช้งานด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร VGS Turbo พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบ Sequential Shift พร้อม Manual Mode มีให้เลือกใช้ทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ พร้อมระบบ DPF เคาะราคาจำหน่าย 1,659,000 สำหรับรุ่น 3.0 RS AT 2WD และ 1,759,000 บาท สำหรับรุ่น 3.0 RS AT 4WD
ส่วนในรุ่นรองอย่าง ULTIMATE มาภายใต้ราคา 1,544,000 บาท และ 1,589,000 บาท สำหรับรุ่น 3.0 ULTIMATE AT 2WD ขณะที่รุ่น ELEGANT มาพร้อม 2 ทางเลือก ได้แก่ 1.9 ELEGANT AT 2WD ราคา 1,419,000 บาท และ 3.0 ELEGANT AT 2WD ราคา 1,464,000 บาท ปิดท้ายด้วยตัวเริ่มต้นอย่าง ACTIVE จำหน่ายในราคา 1,184,000 บาท
จากการตอบรับที่ยอดเยี่ยม หลังการเสริมทัพ สะท้อนทิศทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลให้ค่ายอีซูซุมีแนวโน้มที่จะขยับตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นคิวของรถกระบะประจำค่ายอย่าง ดีแมคซ์ ที่จะเติมความคึกคักให้กับตลาด กระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์ให้มีชีวิตชีวา ชดเชยช่วงเวลาที่ยากลำบาก เก็บเกี่ยวยอดขายในช่วงปลายปี