“มิตซูบิชิ มอเตอร์ส” ย้ำชัด คงแผนผลิต “มิราจ-แอททราจ”
จากสถานการณ์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่หดตัวลงต่อเนื่องจากหลายๆ ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทั้งการผลิต การขาย ทำให้บรรดาเหล่าค่ายรถชั้นนำจากหลายๆ แบรนด์ จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ แต่สำหรับค่ายรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ล่าสุดประกาศเดินหน้าสนับสนุนประเทศไทยเป็นศูนย์กลางยุทธศาสตร์การเติบโตอย่างต่อเนื่อง ย้ำชัดยังคงสายการผลิตของรถยนต์อีโคคาร์ “มิตซูบิชิ มิราจ และแอททราจ”
จากคำแถลงการณ์ของค่ายรถยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ระบุว่า บริษัทยังคงเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทย และถือเป็นศูนย์กลางด้านยุทธศาสตร์การเติบโตของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาด้วยกำลังการผลิตรถยนต์มากกว่า 400,000 คันต่อปี ทำให้โรงงานผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ถือเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ ที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีการส่งออกรถยนต์มากกว่า 80% ของปริมาณการผลิตไปยัง 120 ประเทศทั่วโลก
โดยล่าสุด แผนการผลิตรถมิตซูบิชิ มิราจ และมิตซูบิชิ แอททราจ ของบริษัทฯ ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการส่งออกมากกว่า 90% ของปริมาณการผลิต พร้อมตอบสนองความต้องการรถอีโคคาร์ หรือรถยนต์ประหยัดพลังงานในตลาดประเทศไทยที่ยังคงได้รับความนิยม เพราะฉะนั้น มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จึงยังมิได้มีแผนที่จะหยุดการผลิตมิตซูบิชิ มิราจ และมิตซูบิชิ แอททราจ อย่างแน่นอน
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยการลงทุนสำคัญๆ อาทิ การลงทุนในสายการผลิตใหม่สำหรับ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ที่ประกอบด้วยหุ่นยนต์อัจฉริยะมากกว่า 250 ตัว และการผลิตเครื่องยนต์ใหม่ “ไฮเปอร์พาวเวอร์” ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อรถออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ในปี 2566 และการลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อเปิดตัวโรงงานพ่นสีแห่งใหม่ที่แหลมฉบัง ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีชั้นนำของโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในปี 2565
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังวางแผนการลงทุน ด้วยงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท เพื่อพัฒนาสายการผลิตที่โรงงานประกอบรถยนต์ ภายในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า xEV โดยเริ่มจาก เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และเอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ไปพร้อมกับรถยนต์อีโคคาร์ที่ผลิตอยู่เดิม
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะนำเสนอรถยนต์ที่พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเติมเต็มความสนุกเร้าใจในการการขับขี่ เพื่อปลุกจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นจากเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ล้ำสมัย ภายใต้ดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors-ness) ด้วยปณิธานที่จะสร้างความเติบโตและพัฒนาไปพร้อมกับสังคมไทยและลูกค้าคนพิเศษ โดยตลอดระยะเวลากว่า 63 ปีที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพัฒนาเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศไทย ผ่าน 7 แกนหลัก ได้แก่ การลงทุน การส่งออก สิ่งแวดล้อม การถ่ายทอดเทคโนโลยี การช่วยเหลือสังคม การจ้างงาน และการพัฒนาด้านทรัพยากรมนุษย์
สำหรับ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด นับเป็นศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาของศูนย์การผลิต ของ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชัน ทั่วโลก และยังเป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์มิตซูบิชิ ไปยังกว่า 120 ประเทศ โดยต้นปี 2567 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยฉลองการผลิตรถยนต์ครบ 7 ล้านคัน และได้เปิดทำการ สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) อย่างเป็นทางการที่ จ.ปทุมธานี เมื่อต้นปี 2564
ซึ่งปัจจุบันศูนย์การผลิตของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายในปัจจุบัน ประกอบไปด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส มิตซูบิชิ แอททราจ และมิตซูบิชิ มิราจ