‘นิสสัน’ ปรับกลยุทธ์ ดันยอด ‘เอสยูวี’ เติบโต
นิสสัน ปรับแผนกลยุทธ์การตลาด-การขาย ส่งยอด นิสสัน เทอร์ร่า-นิสสัน คิกส์ ใหม่ สามารถขายได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลุ้นช่วงโค้งสุดท้ายไตรมาส 3-4 ของปี 2565 พร้อมปรับกำลังการผลิตในประเทศให้กลับมาเดินเครื่องเต็มกำลัง เพื่อเร่งส่งมอบให้กับลูกค้าให้ทันตามกำหนด
ภายหลังการปรับปรุงผลิตภัณฑ์โปรดักต์ใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์เอสยูวี พร้อมทำราคาใหม่ สะท้อนยอดขายรวม และยอดขายเอสยูวี นิสสัน คิกส์ และนิสสัน เทอร์ร่า ที่ได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ทว่าด้วยปัญหาในด้านการขาดแคลนชิ้นส่วนผลิต ยังคงต้องลุ้นกำลังการผลิตในช่วงไตรมาสที่เหลือว่าจะทำได้ตามเป้าหมายกับยอดที่สั่งซื้อหรือไม่
โดยยอดขายของนิสสันนับตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทำได้ 14,107 คัน ลดลง 20.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่สถานการณ์ถือว่าดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่ตัวเลขติดลบถึง 25% ขณะยอดขายทั้ง 4 รุ่น ได้แก่ นิสสัน อัลเมร่า ทำได้ 6,687 คัน, นิสสัน นาวาร่า 3,777 คัน, นิสสัน คิกส์ 1,581 คัน และนิสสัน เทอร์ร่า 717 คัน ทำได้รวมแล้วทั้งสิ้น 12,762 คัน
มร.อิซาโอะ เซคิกุจิ เปิดเผยว่า จากยอดขายนิสสันที่ลดลง เป็นผลพวงมาจากการผลิตไม่ทัน เพราะพึ่งพาชิ้นส่วนจากจีนเป็นหลัก แต่ประธานนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ก็ไม่ปฏิเสธเรื่องความผิดพลาดของแผนงานต่างๆ ที่ผ่านมา จนต้องมาแก้ไขในเชิงโครงสร้างจนถึงทุกวันนี้
“เมื่อก่อนนิสสันเน้นไล่ตามยอดขาย หรือต้องขายให้ได้เยอะๆ และอัดโปรโมชัน แต่จากนี้ไปเราต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่จะต้องวางแผนขายยาวๆ หรือในปัจจุบันที่มี 4 โมเดลหลัก และมี 2 โมเดลนำเข้า ซึ่งตอนนี้นิสสันเป็นแบรนด์เล็กในตลาดรถยนต์ไทย และมีเป้าหมายทำยอดขายให้กลับมาติดอยู่อันดับ 1 ใน 5 ให้ได้” มร.เซคิกุจิ กล่าวสรุป
อย่างไรก็ตาม การปรับตำแหน่งทางการตลาด และปรับปรุงโปรดักต์ใหม่ของ นิสสัน คิกส์ ใหม่ ที่ทำยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดด เป็นสัญญาณที่ชี้ว่านิสสันมาถูกทาง เพียงแต่สิ่งที่ยังต้องกังวลคือหลังจากส่งมอบ บี-เอสยูวี e- power ล็อตใหญ่ในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมได้แล้ว ต่อไปในเดือนกันยายน และไตรมาสที่ 4 จะผลิตรถได้ทันกับความต้องการของผู้ที่สั่งซื้อหรือไม่
ส่วนเอสยูวีที่พัฒนาบนพื้นฐานปิกอัพ นิสสัน เทอร์ร่า ที่ปรับปรุงโปรดักต์ครั้งใหญ่ และเปิดตัวตั้งแต่ปี 2564 ปัจจุบันยอดขายดีขึ้นเรื่อยๆ โดย 7 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค. 65) ทำได้ 717 คัน เพิ่มขึ้น 260% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หรือประมาณ 100 คันต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 (ก่อนปรับปรุงโมเดล) ที่ขายอยู่ในระดับ 20-30 คันต่อเดือนเท่านั้น